รีวิวผสม วิตามินซี ใช้เอง
เราเคยทำรีวิวผสมวิตามินซีทาหน้า ไว้ใน Pantip แต่ข้อมูลมันหายไป จึงเอามาลง Blog ดีกว่า ไม่หายแน่นอนเห็นมีกระแส ผสมวิตามินซีทาผิวใช้เอง กำลังมาแรง ซึ่งเราสามารถทำเองได้ง่ายๆในราคาถู๊กถูก ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ครั้งนี้เลยถือโอกาส มาสอนผสมวิตามินซีโทนเนอร์ใช้เองกันดีกว่า
1. "พระเอก"
พระเอกของเราวันนี้คือ วิตามินซีผง Vitamin C Powder ตามฉลากอาหารเสริม จะเห็นว่าเป็นวิตามินซีแบบ L-ascorbic acid ตัวนี้เราสั่งมาจากเว็บไซต์ iHerb.com ค่ะ
NutriBiotic, Sodium Ascorbate, Crystalline Powder, 16 oz (454 g)
ตัวนี้ราคาประมาณ 650 บาท ขนาด 454 กรม (เกือบครึ่งกิโลกรัม) ใช้ได้นานมาก
http://bit.ly/NutriBiotic-Sodium-Ascorbate-Crystalline-Powder-16-oz-454-g
แต่ถ้าเพื่อนๆ เห็นว่า ราคาแพงไป หรือปริมาณเยอะไป เราแนะนำ 2 ตัวข้างล่างค่ะ ราคาถูกกว่า/ปริมาณน้อยกว่า
http://bit.ly/NutriBiotic-Ascorbic-Acid-100-Pure-Vitamin-C-Crystalline-Powder-8-oz-227-g ราคาประมาณ 370 บาท ขนาด 227 กรัม
http://bit.ly/Now-Foods-Vitamin-C-Crystals-8-oz-227-g ราคาประมาณ 300 บาท ขนาด 227 กรัม
2. "นางเอก"
ส่วนของนางเอก ก็คือ โทนเนอร์ toner
แต่ถ้าเพื่อนๆ อยากผสมวิตามินซีเพียวๆ คือไม่อยากได้แบบบริสุทธิ์จริงๆ เราแนะนำให้ใช้น้ำเปล่าได้เลยค่ะ แต่ควรจะมี กลีเซอรีน Glycerin เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นด้วย ไม่งั้น ผิวหน้าจะแห้งเกินไป
เราสามารถหาซื้อกลีเซอรีน ได้ตามร้านขายอุปกรณ์เครื่องสำอางหรือศึกษาภัณฑ์ แต่ถ้าใครไม่สะดวก ก็อาจสั่งจาก iHerb ได้เช่นกัน เราแนะนำ 2 ตัวข้างล่าง เป็นกลีเซอรีนจากพืช บริสุทธิ์ 100% ค่ะ
http://bit.ly/Now-Foods-Solutions-Vegetable-Glycerine-16-fl-oz-473-ml ตัวนี้ราคาประมาณ 330 บาท ปริมาณ 473 ml.
http://bit.ly/Cococare-Africare-100-Glycerin-8-5-fl-oz-250-ml ตัวนี้ราคาประมาณ 180 บาท ปริมาณ 250 ml.
จากโทนเนอร์ที่มีอยู่นั้น เราเลือกมา 3 ตัว เป็นโทนเนอร์ในกลุ่มผลัดเซล์ผิว/รักษาสิว เหมาะที่จะเอามาผสมเป็น Vitamin C Toner
โทนเนอร์ที่ไม่ควรใช้ผสมกับวิตามินซีคือ โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของ Arbutin, อนุพันธ์ของวิตามินซีรูปแบบอื่นๆ เช่น ascorbyl glucoside, sodium ascorbyl phosphate, magnesium ascorbyl phosphate และวิตามินบีสาม (niacinamide)
สาเหตุที่ไม่ควรมีส่วนผสมดังกล่าว เพราะวิตามินซีที่มีสภาพเป็นกรด จะทำให้สารเหล่านั้นเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และวิตามินบีสาม (niacinamide) ที่อยู่ในสภาวะที่เป็นกรด จะค่อยๆเปลี่ยนเป็น niacin ซึ่งอาจทำให้หน้าแดงได้
มาดูส่วนผสม toner ที่เลือกกันมาก่อนดีกว่า
ตัวแรก ยี่ห้อ Garnier เป็นโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิว เพราะมี salicylic acid (BHA) เป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยในการผลัดเซลล์และลดการอุดตันของผิว (ป้องกันสิว) แต่มี น้อง alcohol มาด้วย เพราะอะไร? ก็เพราะว่าเจ้า salicylic acid ละลายใน alcohol เป็นอย่างดี และแม้ salicylic acid จะสามารถละลายในสารตัวอื่นๆได้ แต่ผลทาง cosmetics ก็ไม่ดีเท่า alcohol ตัวอย่างเช่น โทนเนอร์ของป้าพอลลา ที่มักจะทิ้งความมันเงาไว้พอสมควร และบางครั้ง ถ้าเราทาครีมทับก็อาจหลุดลอกเป็นขุยได้ ต่างจาก Garnier ตัวนี้ที่แทบไม่ทิ้งความมันเงา แต่คงไม่เหมาะกันคนที่แพ้ alcohol แต่ด้วยความที่เรามีหนังหน้าหนามั๊กๆ 555 บ่ยั้น คะ
ลักษณะของ โทนเนอร์ตัวนี้จะมีสีฟ้าอ่อนๆ (แม้ในส่วนผสมจะไม่มีสีผสมมา) ซึ่งคาดว่าเป็นสีของ alcohol denat.ที่ผสมมา
ตัวต่อมา ยี่ห้อ Boots มี alcohol อีกเช่นกัน ตัวนี้ต่างจากตัวแรกยังไง? ต่างตรงที่ ตัวแรกยัง glycerin มาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นบ้าง และไม่มีสี
ตัวสุดท้าย ยี่ห้อ Boots เช่นกัน ตัวนี้ขอนำเสนอ แม้จะ alcohol แต่ก็ใส่มาหลัง butylene glycol (ซึ่งเป็นสารทำละลาย) ทำให้ลดอาการแห้งไปได้บ้าง ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของ salicylic acid (BHA) แต่มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ทำหน้าที่เป็นตัวผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนๆ
คำถามที่หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับการเลือกใช้ toner มาผสมวิตามินซีทาผิว ดังนี้
คำถามที่ 1 ทำไมต้องใช้ toner ใช้น้ำเปล่าได้ไหม?
คำตอบ: ได้คะ ใช้น้ำเปล่าๆเลยก็ได้ แต่เราเลือกใช้โทนเนอร์เพราะโทนเนอร์จะมีสารอื่นๆผสมมาด้วย เช่น ตัวทำละลายที่ช่วยให้วิตามินซี ซึมผ่านผิวได้ดีขึ้น แต่ถ้าจะใช้น้ำเปล่า ก็ให้ใช้ glycerin ตามที่แนะนำไปข้างต้นค่ะ
คำถามที่ 2 ทำไมเลือก toner ที่อยู่ในกลุ่มผลัดเซลล์?
คำตอบ: การใช้โทนเนอร์ในกลุ่มผลัดเซลล์ ทำให้ได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือ 1. ช่วยป้องกัน/รักษาสิว 2. ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส นอกจากนี้ บางคนอาจเคยใช้วิตามินซีแล้วเป็นสิว แต่พอใช้สูตรนี้ มันก็มีตัวที่ป้องกันสิวอยู่ด้วย จึงจับมารวมกัน ลดสิว+ขาวใส ไปพร้อมๆกัน WORK มากๆ
คำถามที่ 3 ใช้ toner อื่นได้ไหม?
คำตอบ: ใช้ได้คะ toner อะไรก็ได้ แต่ที่สำคัญ ไม่ควรมีสารสำคัญตามที่บอกไป และควรเป็น toner ราคาไม่แพง จะดีที่สุด เพราะเรากำลังหวังผลจากวิตามินซีที่ผสมเข้าไปมากกว่า
3. "ตัวประกอบ"
สำหรับตัวประกอบ" ก็คือ ตาชั่ง และขวด (ส่วนนี้สามารถประยุกต์ใช้ตามสบายเลยค่ะ) สำหรับ ตาชั่ง ถ้าใช้ Digital Scale ก็จะแม่นยำดี สั่งซื้อจากลาซาด้า Lazada ก็ง่ายดีค่ะ โดยค้นว่า "เครื่องชั่งดิจิตอล ตาชั่ง Digital LCD Display"
ขั้นตอนแรก ตวงวิตามินซีผง (ตามรูป) เราใช้ Vitamin C Toner 20% ดังนั้น หากผสม Toner 10 กรัม ก็จะต้องใช้ วิตามินซีผง 2 กรัม คะ ในรูป วิตามินซี 2.00 กรัม
ขั้นต่อมา
1. ใส่วิตามินซีผง ที่ตวงแล้วลงในขวด
2. เปิดขวด toner เตรียมเท
3. เทtoner ให้ได้ปริมาณ 10 กรัม (เท่ากับ วิตามินซี 2 กรัม + toner 8 กรัม = 10 กรัม)รวมเป็น จะได้ vitamin C toner 20% แล้ว ทำไมง่ายเช่นนี้!!!!!
ตามรูป จะเห็นว่ามันยังไม่ละลาย ให้เขย่าไปเรื่อยๆ แล้วจะพบว่าเริ่มละลายแล้ว ดูรูปสุดท้าย ละลายหมดแล้วจ้า
คำถามที่หลายคนอาจสงสัยเพิ่มเติม ดังนี้
คำถามที่ 1 ใช้วิตซีผงชนิดรับประทาน?
ตอบ: วิตามินซีที่นำมาใช้นี้เป็นแบบทานได้ค่ะ เป็นเกรดยา (Pharmaceutical Grade) ซึ่งสูงกว่า Food Grade และ Cosmetic Grade ค่ะ ที่เลือกใช้ตัวนี้เพราะมีข้อดี คือ ถูก เยอะ และใช้ได้หลากหลาย สามารถนำมาใช้แทนมะนาว เพิ่มความเปรี้ยวให้อาหาร และสามารถซื้อแคปซูลเปล่า มากรอกวิตามินซีนี้ลงไป เพื่อเป็นวิตามินซีแบบแคปซูล ได้อีกด้วย
- สั่งซื้อ แคปซูลเปล่า Empty Capsules ได้ที่ iHerb เช่นกันค่ะ http://bit.ly/empty-capsules
คำถามที่ 2 หากไม่มีตาชั่ง ใช้วิธีกะเอาได้ไหม จะเป็นอันตรายไหม?
ตอบ: ไม่มีตาชั่งก็ใช้ได้ แต่จะไม่ค่อยเที่ยงตรงเท่านั้นเอง ซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
- ช้อนแบบที่เราใช้นั้น เราตักแบบพูลๆ 3 ช้อนก็ได้ประมาณ 2 กรัม คะ
- สามารถใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป เช่น ครั้งแรกใช้ 1 ช้อน (ความเข้มข้นต่ำ) แล้วค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้นขึ้น เมื่อใช้ไปสักระยะ
คำถามที่ 3 ควรผสมใหม่ทุกครั้งที่จะใช้หรือไม่? สามารถผสมเก็บไว้ใช้ ได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่จำเป็นต้องผสมใหม่ทุกครั้ง ขวดที่เราใช้นี้ปริมาณ 10 กรัม หากใช้เช็ดหน้าแบบโทนเนอร์ อาจจะใช้ได้ 3 วัน ค่อนผสมใหม่
- เวลาวิตามินซีเสื่อมสภาพ มันจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ดังนั้น เราสามารถสังเกตได้ว่า เราควรผสมแค่ไหน และใช้ได้กี่วัน ก่อนที่วิตามินซีจะเสื่อมสภาพ
คำถามที่ 4 จำเป็นต้องวัดค่าความเป็นกรด pH หรือไม่ ผสมเยอะเกินไปจะกัดหน้ารึเปล่า?
ตอบ: วิตามินซีจะทำงานได้ในสภาวะที่เป็นกรด ดังนั้น ใครมีผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ควรเริ่มต้นอย่างเบาๆก่อนคะ เช่น 5% --> 10% --> 15% --> 20% คะ แต่จริงๆไม่ต้องถึง 20% ก็ได้คะ เพราะที่ความเข้มข้นสูงๆ วิตามินซีจะเริ่มไม่ซึมเข้าผิวเท่าไร
- ไม่จำเป็นต้องวัดค่า pH ก็ได้ เพราะเวลาผสมไปมันก็จะเป็นกรด ซึ่งวิตามินซีทำงานได้อยู่แล้ว แต่ถ้ากลัวว่าจะเป็นกรดมากไป ก็อาจใส่พวก sodium hydroxide หรือ triethanolamine ซึ่งค่อนข้างยุงยาก ดังนั้น เราแนะนำว่า ให้ใช้แบบค่อยเป็นค่อยไป ผิวจะค่อยๆปรับตัวและไม่มีอาการแสบหน้า
คำถามที่ 5 ขวดใสแบบที่รีวิว จะทำให้วิตซีเสื่อมคุณภาพหรือไม่?
ตอบ: สามารถบรรจุใส่ขวดใสได้ค่ะ โดยปกติ วิตามินซี จะเสื่อมเมื่ออยู่ในน้ำ อากาศ แสงแดด ดังนั้น ถ้าเลือกใช้ขวดใส ก็เก็บไว้ในที่มืด เช่น ในลิ้นชัก สามารถเก็บไว้ได้อย่างต่ำ 1 อาทิตย์ ก่อนที่จะเริ่มเปลี่ยนสี
ขอจบ รีวิวการผสมวิตามินซีทาผิวและคำถามไว้เท่านี้ก่อน บ้าย บาย ค่ะ
อ่านบทความอื่นๆได้ที่
- รีวิว วิตามิน ตอนที่ 1
- รีวิว วิตามิน ตอนที่ 2
- วิธีสั่ง iHerb
- โค้ดส่วนลด iHerb
- ตัวอย่างสินค้า iHerb
- http://www.iherb.com/